วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ต้อนรับ "ศัตรู" อย่างแขกคนสำคัญ !



ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่น่าจดจำของ ลี กา ชิง
เหตุไฉนเขาจึงต้องต้อนรับ"คนที่เอาเปรียบตนมาตลอด"แบบ"แขกคนสำคัญ"
แล้วยังนำมาเป็นเรื่องราวในการสอนคนรุ่นต่อๆไป
ตอน ลี กา ชิง เริ่มทำธุรกิจใหม่ๆในฮ่องกง 
ได้มีการติดต่อขายเม็ดพลาสติกให้กับผู้นำเข้ารายหนึ่งในอังกฤษ 
ฝั่งนั้นเห็นว่านายลีอายุยังน้อย เป็นบริษัทเล็กๆ 
ไม่รู้เรื่องกฏเกณฑ์ต่างๆ หากรู้ก็ไม่มีอำนาจต่อรอง 
เลยหลอกนายลีว่า ด้วยกฏระเบียบของกรมศุลกากรที่นั่น 
สินค้าเกี่ยวกับพลาสติกเคมีทั้งหลายที่ส่งไปนั้น จะถูกเรียกเก็บเงินประกัน
โดยกรมศุลกากรเป็นจำนวนเงิน 30% ของราคาสินค้า
 เงินจะได้คืนจากกรมศุลกากรเมื่อ
ได้รับการอนุมัติหลังจากมีการพิสูจน์บางอย่างเรียบร้อยแล้ว
ลี กา ชิง รู้ว่านี่คือกลอุบายที่จะหลอกเก็บกักเงินของตนของผู้ซื้อ 
แต่ตนก็ไม่มีทางเลือกมากนัก 
แม้นกระนั้นก็ยังพอมีกำไรเหลือบ้างเล็กน้อย เลยต้องสงบปากสงบคำ 
รับข้อเสนอของฝั่งนั้นไปก่อน รอเวลาให้ตนค่อยๆเติบโตขึ้น

เมื่อพ่อค้าฝั่งอังกฤษเห็นว่านายลีข่มได้ง่าย เป็นไอ้โง่ในสายตาเขา 
นับจากปี 1950 ถึง 1957 รวม 7 ปีเต็ม 
เงินค่าประกันสักแดงก็ไม่เคยคืนมาให้นายลี 
หากรวมยอดเงินทั้งหมดที่โดนค้างชำระ 
ยังมากกว่าเงินทุนในบริษัทตนหลายเท่า 
เป็นภาระอันหนักหน่วงมากๆสำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานอย่างของเขา
ทนจนทนไม่ไหว ลี กา ชิง จึงต้องยื่นคำขาด หลังจากนี้อีก 6 เดือน 
จะไม่รับใบสั่งซื้อแบบนี้อีก 
พอจดหมายส่งออกไป ทางฝ่ายผู้สั่งซื้อในอังกฤษ
จึงได้ค่อยๆทยอยคืนเงินที่คั่งค้างไว้จนหมดในที่สุด 
แม้จะได้เงินคืนจนครบ แต่ความแค้นก็ยังสะส มอยู่ในใจ 
เพราะเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น ตนเองยากลำบากมากๆในการแบกภาระเงินก้อนใหญ่จำนวนนี้

แต่ ลี กา ชิง ก็ไม่ได้คิดจะแก้แค้นใดๆ ก็แค่ตั้งหน้าตั้งตาทำการค้าขายของตนเองต่อไป 
แต่ค่อยๆตีตัวออกห่างจากบริษัทนี้ จนในที่สุดก็ไม่มีอะไรติดต่อกันอีก 
หลังจากนั้นอีกหลายสิบปี นายลีก็ได้รับจดหมายจากอังกฤษฉบับหนึ่ง
เจ้าของจดหมายบอกว่า ตนเห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ 
เห็นชื่อมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงนามว่า Mr. Li Ka Shing 
ก็เลยสงสัยว่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่เคยค้าขายกับตนเมื่อสมัยก่อนหรือเปล่า ถ้าใช่ 
เขาอยากมาพบนายลีอีกสักครั้งในฮ่องกง แต่เพราะตนอายุมากแล้ว 
ฐานะความเป็นอยู่ก็ค่อนข้างลำบากในตอนนี้ 
หวังว่านายลีจะช่วยอนุเคราะห์ค่าเดินทางให้เขา
หลังจากได้รับจดหมาย นายลีหวนคิดถึงชาวอังกฤษผู้ที่ทำให้ตนต้องทุกข์อยู่หลายปี 
ในใจก็คิดว่า เอ้า ไหนๆก็ไหนๆ อยากเจอหน้ากันก็มาเลย 
จะได้ถือโอกาสระบายความเคืองแค้นในอดีตให้ฟังกันหน่อย

ตามปกติ การต้อนรับแขกที่มาจากแดนไกล 
นายลีจะจัดการซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นหนึ่งส่งไปให้แขก จัดการให้อยู่โรงแรมห้าดาว 
เมื่อต้อนรับแขกเข้าสู่โรงแรม ดอกไม้ แชมเปญก็ถูกส่งเข้าไปแสดงการต้อนรับทันที 
แต่สำหรับแขกที่เหมือนศัตรูรายนี้ เขายังไม่หายแค้น เลยสั่งเลขาว่า 
ไปรับจากสนามบินแล้วส่งเข้าโรงแรมก็พอ

แล้วก็ถึงเวลาที่ทั้งสองได้เจอหน้ากัน คนที่เคยรังแก เอาเปรียบตนสารพัด 
บัดนี้กลายเป็นคนแก่ที่ทรุดโทรมหลังค่อมแบบหมดสภาพ สายตาย่ำแย่ 
แม้จะเดินก็แทบจะเดินไม่ไหว
คำพูดที่นายลีเตรียมจะต่อว่าเมื่อเจอหน้า 
"เจ็ดปีนั้นคุณทำเอาผมทุกข์ระทมสุดบรรยาย" หดหายไปทันที 
ความรู้สึกของความเครียดแค้นกลับกลายเป็นความสงสารกับสภาพที่พบเจอ 
นายลีเล่าว่า "ฝั่งนั้นรู้สึกตื่นเต้นมาก กระสับกระส่าย พูดอะไรไม่ออกสักคำ 
ผมก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าคนที่เคยวางมาดใหญ่คับฟ้า เอาเปรียบรังแกผมมาตลอด 
จะกลายสภาพเป็นแบบนี้
ผมรีบเข้าไปประคองเขา ผมก็จุกอกจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน 
หลังจากที่เจอกันแล้ว ผมก็เลยกำชับเลขาให้ส่งแชมเปญและผลไม้เข้าไปให้เขา"

หลังจากนั้นหลายปี หากถูกถามถึงเรื่องนี้ 
อะไรทำให้เขาเปลี่ยนใจไปต้อนรับ "ศัตรู" แบบ "แขกคนสำคัญ" 
นายลีแค่ตอบด้วยคำพูดเสียงเบาๆว่า "เห็นเขาย่ำแย่สุดจะบรรยาย แต่เรากลับสบายดี 
ทำใจไม่ได้ที่จะไปซ้ำเติมเขา เห็นบอกว่า หลังจากกลับไปแล้ว ปีถัดมาเขาก็เสียชีวิตไป"

เขา-ทำธุรกิจแบบเอาเปรียบและไร้จรรยาบรรณ-สุดท้ายก็กลายเป็นคนน่าเวทนา
ผม-ทำธุรกิจด้วยความอดทนและอดกลั้น-ปัจจุบันอยู่ในสภาพดี

ลี กา ชิง บอกว่า นี่คือผลตอบแทนต่อการกระทำของตัวเราเองสู่ตัวเราเอง มันยุติธรรมแล้ว
บุคคลท่านนี้ถูกนายลีนำไปเป็นตัวอย่างด้านลบในการสั่งสอนคนในครอบครัว
และพนักงานในองค์กร เป็นคนต้องมีศีลธรรม จงเชื่อมั่นว่า คนเราทำดีต้องได้ดีตอบ 
หากทำชั่วบาปกรรมจะติดตัว เราทำอะไรก็ตาม ฟ้าจะเห็นหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ 
แต่คนด้วยกันเห็นแน่นอน สุดท้ายแล้ว ทุกคนก็จะรู้ว่า คุณเป็นคนแบบไหน 
คุณทำตัวอย่างไร คุณก็จะได้ผลตอบแทนเช่นนั้นบนเส้นทางชีวิตของคุณเอง


ขอบคุณข้อมูล : "ขจรศักดิ์" แปลและเรียบเรียง
8/7/17



3 ความคิดเห็น:

  1. นายลี... คนนี้เป็น คนประหยัดแต่ไม่ขี้เหนียว เขาใส่นาฬิกาเรือนถูกๆ ไม่กี่บาท แต่มาทำงานตรงเวลามากๆ เขาบอกว่า "ถ้าคุณใส่นาฬิกาเรือนแพงๆ แต่ไม่ตรงเวลาจะมีประโยชน์อะไร" !!

    ตอบลบ
  2. เพราะว่าในจิตใจของมนุษย์ทุกคนย่อมมีความดีติดอยู่ในใจ

    ตอบลบ